ทุกๆครั้งที่ได้ยินคำขวัญประจำจังหวัดราชบุรี "คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่ง เมืองโอ่งมังกร วัดขนอนหนังใหญ่ ตื่นใจถ้ำงาม ตลาดน้ำดำเนิน เพลินค้างคาวร้อยล้าน ย่านยี่สกปลาดี" ผมจะรู้สึกย้อนวันวานกับวรรคที่ว่า "เมืองโอ่งมังกร" เสมอ..
ในอดีตถ้าพูดถึงจังหวัดราชบุรี แทบทุกคนจะต้องนึกถึง"โอ่งมังกร" แต่ปัจจุบันถ้าพูดถึงราชบุรีขึ้นมา ผู้คนส่วนใหญ่ ก็จะนึกถึงแต่สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในอำเภอสวนผึ้ง ซึ่งไม่มีในคำขวัญประจำจังหวัดด้วยซ้ำไป
ผมมีความผูกพันธ์กับโอ่งมังกร แต่ก็ไม่เชิงแนบแน่นซาบซึ้งทรวงในขนาดปั้นโอ่งเองได้ แต่ผมโตมากับโรงงานผลิตเครื่องปั้นดินเผา หรือที่คนราชบุรีเรียกว่า "โรงโอ่ง"
ตั้งแต่จำความได้ พ่อกับแม่ก็ทำงานอยู่ในโรงโอ่งทั้งคู่ พ่อจะทำหน้าที่ "ตีโอ่ง" โดยใช้อุปกรณ์ไม้ตีเหมือนไม้ปิงปอง แต่ไม้ตีจะมีความโค้งมนเพื่อที่จะตีโอ่งให้ออกมาได้ทรงสวยงาม ส่วนแม่จะทำหน้าที่พิมพ์ลายมังกรที่ผิวของโอ่ง และพิมพ์ลายมังกรที่ผิวของกระถาง เรียกอีกอย่างว่า "ติดดอก" ซึ่งพระเอกตัวจริงที่ผมรู้สึกผูกพันแนบแน่นแบบสุดขั้วหัวใจก็คือ กระถาง (นี่แหล่ะของจริง)
วัยเด็กผมและพี่ชายจะต้องช่วยแบ่งเบาการทำงานของแม่ ถ้าแม่ต้องติดดอกโอ่ง ผมและพี่ก็ไม่ต้องช่วยทำอะไรมาก เพราะโอ่งใบใหญ่เกินกว่าพวกผมจะยกไหว แต่แม่ก็คงจะกลัวว่าผมจะว่างมากเกินไป แม่จึงมอบหน้าที่ ติดลูกนัยน์ตาที่ลวดลายมังกรมาให้ทำ ผมก็ติดส่งๆไปงั้นแหล่ะ ห่วงไปเล่นซะมากกว่า ผลงานของการติดดอกโอ่งของแม่หลายๆใบ ....มังกรตาเหล่
เมื่อแม่เสร็จงานจากโอ่งมังกรแล้ว ช่วงเวลาสนุกของผมและพี่ชายก็จะหมดลง (วลี หมดเวลาสนุกแล้วสิ ของเทเลทับบี้ แว็บเข้ามาในหัว) แม่จะไปเริ่มติดดอกกระถางต่อ ซึ่งจะต้องโยกย้ายสถานที่มาอีกฝากของโรงโอ่ง
กระถางที่แม่พิมพ์ลวดลายมังกร จะมีหลากหลายขนาด กระถางที่เพิ่งปั้นเสร็จ(ดินนิ่มมาก) จะถูกวางไว้บนแผ่นไม้กระดานขนาดประมาณ 80x80 ซม. ทิ้งไว้1วันก็จะแข็งตัวพอที่จะยกขึ้นมาพิมพ์ลายได้ ผมจะมีหน้าที่ยกกระถางขึ้นมาวางบน"แป้น"(โต๊ะที่มีแกนหมุนได้ เพื่อจะหมุนกระถางให้พิมพ์ลายมังกรได้ง่ายขึ้น) เมื่อแม่พิมพ์ลายเสร็จ พี่ชายก็จะทำหน้าที่ยกลงไปวาง โดยที่ผมจะต้องคอยเก็บกระดานมาวางเรียงๆไว้ให้คนปั้นนำกลับไปใช้รองกระถางใหม่
ถ้าวันไหนแม่มีงานเยอะ ทั้งโอ่งทั้งกระถาง ผมและพี่ชายจะต้องพบเจองานยาก ที่ท้าทายฝีมือในการยกกระถางที่เพิ่งปั้นเสร็จได้ไม่นานนัก ซึ่งมันจะนิ่มมากๆ ถ้ายกไม่ดี ก็เละ เสียหายกันไป ผมจะใช้แท็คติคการอุ้มกระถาง(เอาแขนโอบกระถางมาไว้ที่ลำตัว) แต่แม่ก็จะต้องโดนหักเงินค่ากระถางที่เสียหายไปด้วย แม่ก็ไม่เคยต่อว่าแรงๆเรื่องที่เราทำของเสียหายซักเท่าไหร่ แต่ผมและพี่ชายจะรับรู้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของแม่เสมอ
ฤดูหนาว กระถางจะแข็งตัวเร็วมากๆ ผมจะชอบยกกระถางที่แข็งๆ เพราะยกง่ายไม่ต้องกลัวเสียหาย ยกมือละใบยังได้ แต่พอยกไปได้ซักพัก จะรู้สึกเลยว่า "แสบมือมากๆ"
ช่วงพักเที่ยงเสียงกระดิ่งรถจักรยานของ"ยายนิต" คือเสียงสวรรค์สำหรับผมและพี่ชาย เพราะนั่นคือสัญญานของรถขายน้ำหวานและขนมไทยๆจำพวกไข่หงษ์ สาคูไส้หมู ข้าวเหนียวหน้าสังขยา ฯลฯ ราคาถุงละ5บาท จัดสาคูไส้หมูกับชาดำเย็นซักถุง ก็สุขใจ....
ที่ริมรั้วโรงโอ่งใกล้ๆที่ผมยกกระถาง จะมีเปลญวนแขวนไว้ใกล้ๆต้นตะขบ ช่วงพักเที่ยงผมมักจะไปเก็บตะขบมากิน ถ้าถามว่าทำไมผมถึงไม่นอนเปลเพื่อพักผ่อนล่ะ ? คำตอบ คือ ..ไอ้พี่ชาย มันแย่งไปนอนตลอด
ในเมื่อมีกินเข้า ก็ต้องมีเอาออก... พูดถึงห้องสุขาของโรงโอ่งแห่งนี้ จะเป็นแนวธรรมชาติ รับรู้ได้ถึงความเย็นของสายลมและไอร้อนของแสงแดดที่มากระทบผิวหนังตูดได้อย่างชัดเจน ใครจะยึดพื้นที่หลังกองฟืน หรือใครจะกระชับพื้นที่หลังกองดินเพื่อใช้ในภารกิจระดับชาติก็ตามแต่สะดวก การไปขี้ครั้งนึงจึงต้องมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ใครจะหิ้วน้ำใส่กระป๋องไปชำระล้าง หรือ ใครจะชอบแนวใช้ใบไม้เช็ดตูดก็ตามสะดวก แต่ต้องเลือกใบไม้ที่มีขนาดพอเหมาะและมีความยืดหยุ่นพอสมควร มิฉะนั้นถ้าขณะเช็ดสิ่งปฎิกูลแล้วใบไม้เกิดการฉีกขาด หายนะจะเกิดขึ้นกับฝ่ามือของคุณทันที ที่สำคัญที่สุดห้ามใช้ใบไม้ที่มีขนเด็ดขาด...
รางวัลสำหรับการตรากตรำงานของผมและพี่ แม่สนองตัณหาของผมด้วยการพาไปซื้อเครื่องเกมส์ Family อารมณ์จุดนั้นที่หน้าร้านเกมส์มันมากกว่าคำว่าดีใจ แต่ดีใจได้ไม่นานหรอก ผมกับพี่ก็ทะเลาะกันเรื่องตลับเกมส์ สรุปได้เครื่องFamilyพร้อมเกมส์Popeye กลับบ้าน
วันเสาร์-อาทิตย์ แม่มีงานเยอะต้องออกไปโรงโอ่งตั้งแต่เช้า นั่นหมายความว่าผมจะต้องพลาดความสนุกสนานเพลิดเพลินของเด็กยุค'90ไปโดยปริยาย ผมจะอดดูการ์ตูนช่อง9 จำได้ว่าเคยแอบน้อยใจแม่หลายครั้ง แต่ก็เข้าใจว่าถ้าเราไม่มาช่วยแม่ยกกระถาง แม่จะต้องยกขึ้น-ยกลง คนเดียว ซึ่งมันช้าและเหนื่อยมาก
.....
.....
ถ้าผมย้อนเวลากลับไปวัยเด็กได้ ผมจะมีคำพูดที่อยากจะพูดกับแม่ว่า..."ขอดูดาร์ก้อนบอลให้จบก่อน แล้วค่อยไปโรงโอ่งนะแม่นะ"
.............
รางวัลสำหรับการตรากตรำงานของผมและพี่ แม่สนองตัณหาของผมด้วยการพาไปซื้อเครื่องเกมส์ Family อารมณ์จุดนั้นที่หน้าร้านเกมส์มันมากกว่าคำว่าดีใจ แต่ดีใจได้ไม่นานหรอก ผมกับพี่ก็ทะเลาะกันเรื่องตลับเกมส์ สรุปได้เครื่องFamilyพร้อมเกมส์Popeye กลับบ้าน
วันเสาร์-อาทิตย์ แม่มีงานเยอะต้องออกไปโรงโอ่งตั้งแต่เช้า นั่นหมายความว่าผมจะต้องพลาดความสนุกสนานเพลิดเพลินของเด็กยุค'90ไปโดยปริยาย ผมจะอดดูการ์ตูนช่อง9 จำได้ว่าเคยแอบน้อยใจแม่หลายครั้ง แต่ก็เข้าใจว่าถ้าเราไม่มาช่วยแม่ยกกระถาง แม่จะต้องยกขึ้น-ยกลง คนเดียว ซึ่งมันช้าและเหนื่อยมาก
.....
.....
ถ้าผมย้อนเวลากลับไปวัยเด็กได้ ผมจะมีคำพูดที่อยากจะพูดกับแม่ว่า..."ขอดูดาร์ก้อนบอลให้จบก่อน แล้วค่อยไปโรงโอ่งนะแม่นะ"
.............
